วิธีใช้ยาทำแท้ง
อายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์ ใช้ยาทำแท้ง 2 ชนิดร่วมกัน (อาร์ยู486
และ ไซโตเทค)
วิธีที่ 1 (ใช้ RU-486
1 เม็ด + cytotec 6 เม็ด
1. กินยาRU-486 1 เม็ด
(Mifepristone 200mg) ยานี้จะไปขวางกั้นประสิทธิภาพของโปรเจสเตอโรน
ฮอร์โมนที่จำเป็นในการตั้งครรภ์
2. อีก 24 ชั่วโมงต่อมา
อม cytoec (Misoprostol) 4 เม็ดใต้ลิ้น
และทิ้งไว้อย่างนั้นอย่างน้อย 30 นาที จนกว่ายาจะละลายไปจนหมด
ในระหว่างนี้ คุณสามารถกลืนน้ำลายได้ และหลังจาก 30 นาทีไปแล้ว
คุณสามารถกลืนส่วนที่เหลือของยาลงไป
3. 4 ชั่วโมงหลังจากใช้ไซโตเทคโดสแรกไปแล้ว
อมไซโตเทค อีก 2เม็ดใต้ลิ้นให้ครบ 30 นาที ก่อนกลืนยา
วิธีที่ 2 (ใช้ RU-486 1 เม็ด + cytotec
4 เม็ด )
1. กินยา RU-486 (Mifepristone 200mg) 1 เม็ด
2. อีก 24 ชั่วโมงต่อมา
สอด cytotec (Misoprostol) 2 เม็ดทางช่องคลอด
โดยสอดยาให้ลึกที่สุด ดันเม็ดยาให้แน่น ตำแหน่งของยาอยู่ใต้ปากมดลูก
3. อีก 12 ชั่วโมง
สอดยาไซโตเทคอีก 2 เม็ด
อายุครร์เกิน 9 สัปดาห์
ใช้ยาสอดทำแท้งไซโตเทค (ไม่ใช้อาร์ยู486) โดยสอดยาทางช่องคลอดครั้งละ 2 เม็ด ห่างกันทุก 12 ชั่วโมง
ท้อง 3 เดือน ใช้ยาสอด 6
เม็ด
ท้อง 4 เดือน
ใช้ยาสอด 8 เม็ด
ท้อง 5 เดือน
ใช้ยาสอด 10 เม็ด
ท้อง 6 เดือน
ใช้ยาสอด 12 เม็ด
ในกรณีท้องไม่เกิน 9 สัปดาห์
24 ชั่วโมงหลังจากกินอาร์ยู486ไปแล้ว การใช้ไซโตเทคทำได้ถึง 3 วิธีคือ อมใต้ลิ้น
เหน็บช่องคลอด หรืออมไว้ที่กระพุ้งแก้ม วิธีการเหล่านี้มีผลดีเท่าเทียมกัน
แต่ต้องใช้วิธีใดวิธีหนึ่งเท่านั้น อย่าเปลี่ยนวิธี
แนะนำว่าคุณควรจะใช้วิธีอมใต้ลิ้นดีที่สุด
เพราะการอมใต้ลิ้นจะทำให้ไม่เหลือเศษยาไว้เป็นหลักฐานถ้าจำเป็นต้องไปโรงพยาบาลในภายหลัง
การตรวจเลือดก็ไม่สามารถตรวจพบได้ว่าได้ใช้ยาทำแท้ง ดังนั้นจึงไม่มีหลักฐานที่จะบอกได้ว่าคุณพยายามทำแท้งด้วยตนเองมา
ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องบอกเจ้าหน้าที่ว่าคุณพยายามทำแท้งมา
บอกไปเลยว่าอยู่ดีๆ เกิดแท้งขึ้นมาเอง (แท้งโดยธรรมชาติ)
หมอจะไม่สามารถเห็นความแตกต่างได้เลย และการรักษาก็ใช้วิธีเดียวกัน
การรักษาที่ใช้คือการขูดมดลูก ซึ่งหมอจะนำเอาสิ่งที่หลงเหลืออยู่ในมดลูกออกไป
ซึ่งการรักษาคนที่เกิดอาการแท้งนั้น หมอจะรับรักษาในทุกกรณีอยู่แล้ว
ประสิทธิภาพของการอมใต้ลิ้น และ
การอมไว้ที่กระพุ้งแก้มอยู่ที่ 95% ประสิทธิภาพของการเหน็บยาจะอยู่ที่
93% ถ้าใช้การอมใต้ลิ้นหรือกระพุ้งแก้มอาจมีอาการคลื่นใส้อาเจียนประมาณ
70% และถ้าใช้วิธีเหน็บจะมีอาการคลื่นใส้อาเจียนน้อยกว่าคือ 62%
ถ้าคุณอยากใช้แบบเหน็บช่องคลอด ควรจะดันยาไซโตเทคเข้าไปในช่องคลอดให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้
จนกระทั่งถึงที่ใต้ปากมดลูก
ถ้า, ด้วยเหตุผลใดๆ
ก็ตาม หลังจากคุณได้กินRU-486ไปแล้วและตัดสินใจว่าคุณจะไม่ใช้
cytotec ตามสูตรยาเพื่อทำแท้ง อาจจะเกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นได้
คุณอาจจะแท้งอย่างสมบูรณ์แม้ว่าไม่ได้ใช้ไซโตเทคก็ตาม
คุณอาจจะเกิดการแท้งค้าง ซึ่งหมายถึงว่าตัวอ่อนไม่เติบโตต่อไปแล้ว แต่ส่วนอื่นๆ ของครรภ์ เช่น เลือด เนื้อเยื่อ ไม่ได้ออกจากร่างกายของคุณ ซึ่งจะต้องรักษาโดยใช้วิธีการดูดเพื่อนำส่วนเหล่านี้ออกมา
การตั้งครรภ์ของคุณอาจจะดำรงอยู่ต่อไป ถ้าคุณตัดสินใจว่าคุณต้องการจะยังตั้งครรภ์ต่อในตอนนั้น มีความเป็นไปได้น้อยมากที่อาร์ยู-486จะทำให้เกิดการเติบโตของตัวอ่อนอย่างผิดปกติ
คุณอาจจะเกิดการแท้งค้าง ซึ่งหมายถึงว่าตัวอ่อนไม่เติบโตต่อไปแล้ว แต่ส่วนอื่นๆ ของครรภ์ เช่น เลือด เนื้อเยื่อ ไม่ได้ออกจากร่างกายของคุณ ซึ่งจะต้องรักษาโดยใช้วิธีการดูดเพื่อนำส่วนเหล่านี้ออกมา
การตั้งครรภ์ของคุณอาจจะดำรงอยู่ต่อไป ถ้าคุณตัดสินใจว่าคุณต้องการจะยังตั้งครรภ์ต่อในตอนนั้น มีความเป็นไปได้น้อยมากที่อาร์ยู-486จะทำให้เกิดการเติบโตของตัวอ่อนอย่างผิดปกติ
คุณไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
คุณสามารถกินอาหารหรือดื่มน้ำต่างๆได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตามผู้หญิงบางคนอาจจะมีอาการคลื่นไส้จากการใช้ไซโตเทค จึงควรจะกินแต่น้อย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น